มหาวิทยาลัย ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระนามราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

การเมืองยุคใหม่กับ Deepfake – ภัยเงียบที่ประชาชนต้องรู้ทัน

Student blog — 10/11/2025

AI UTCC
การเมืองยุคใหม่กับ Deepfake – ภัยเงียบที่ประชาชนต้องรู้ทัน
Deepfake และการเมือง: เมื่อ AI กลายเป็นอาวุธข่าวปลอม

ในยุคที่เทคโนโลยี AI ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว “Deepfake” ได้กลายเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนแรงที่สังคมจับตามอง โดยเฉพาะในแวดวง การเมือง ซึ่งข้อมูลและภาพลักษณ์ของนักการเมืองมีอิทธิพลโดยตรงต่อการตัดสินใจของประชาชน

Deepfake คืออะไร?
Deepfake คือเทคโนโลยีที่ใช้ AI และ Machine Learning เพื่อสร้างภาพ เสียง หรือวิดีโอเลียนแบบบุคคลได้อย่างแนบเนียน จนแทบจะแยกไม่ออกว่าอะไรจริงหรือปลอม เช่น วิดีโอนักการเมืองพูดบางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่ดูเหมือนของจริง 100%
ทำไม Deepfake ถึงอันตรายในทางการเมือง?
  • ปั่นกระแสข่าวปลอม – สามารถสร้างวิดีโอใส่ร้าย หรือบิดเบือนคำพูดนักการเมือง เพื่อสร้างความเกลียดชังหรือความเข้าใจผิด
  • บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือ – ต่อให้เป็นข่าวปลอม แต่หากเผยแพร่ในเวลาสำคัญ เช่น ช่วงเลือกตั้ง ก็อาจทำให้ผู้คนคล้อยตามทันที
  • ยากต่อการตรวจสอบทันเวลา – กว่าที่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็น Deepfake กระแสบนโซเชียลก็อาจสร้างความเสียหายไปแล้ว
กรณีตัวอย่างจากต่างประเทศ
  • ในสหรัฐฯและยุโรป เริ่มมีรายงานวิดีโอปลอมของนักการเมืองถูกแชร์อย่างกว้างขวางบนโซเชียล ก่อนการเลือกตั้ง
  • ล่าสุดหลายประเทศกำลังออก กฎหมายควบคุม Deepfake โดยบังคับให้แพลตฟอร์มต้องมีระบบตรวจจับและแจ้งเตือน
แล้วประชาชนควรรับมืออย่างไร?
  • อย่าเชื่อทุกสิ่งที่เห็น: โดยเฉพาะวิดีโอที่สร้างกระแสแรง ๆ
  • ตรวจสอบแหล่งที่มา: เช็กว่าเผยแพร่โดยสื่อหลักหรือหน่วยงานที่เชื่อถือได้หรือไม่
  • ใช้เทคโนโลยีตรวจจับ Deepfake: ปัจจุบันเริ่มมีเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ความผิดปกติของภาพ/วิดีโอได้
บทสรุป
Deepfake เป็นเหมือน ดาบสองคม ด้านหนึ่งคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง แต่อีกด้านกลับกลายเป็น อาวุธทางการเมือง ที่อาจทำลายความเชื่อมั่นและสร้างความแตกแยกในสังคมได้ การรับรู้เท่าทันและการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ จึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของประชาชนในยุคข่าวปลอมครองเมือง
แชร์บทความนี้

หลักสูตร